ป.ป.ช.ภาค 9 แถลงผลชี้มูลคดีกล่าวหา 'ประดิษฐ์ จาริยะ' อดีตนายก อบต.เกาะหมาก อำเภอปากพะยูน พัทลุง ทำสัญญายืมเงินค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการเท็จ 160,000 บาท เผยมีอ้างนำไปใช้โครงการลงนามถวายพระพรฯ ที่รพ.ศิริราชด้วย -ส่งเรื่องอัยการฟ้องคดีอาญาแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 9 (ป.ป.ช.ภาค 9) ได้เผยแพร่ผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ 2564 และปีงบประมาณ 2565 ไตรมาสที่ 1 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีคดีที่ นายประดิษฐ์ จาริยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีทำสัญญายืมเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในทางราชการ งบประมาณ 160,000 บาท โดยไม่มีโครงการอยู่จริง และไม่นำเงินคืน ส่งคลัง เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมากและราชการได้รับความเสียหายรวมอยู่ด้วย
ป.ป.ช. ภาค 9 ระบุพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2553 ผู้ถูกกล่าวหา ได้ทำสัญญายืมเงินจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก โดยอ้างว่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามโครงการลงนามถวายพระพรฯ ที่โรงพยาบาลศิริราช และศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 14 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2553
แต่ปรากฏว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อครบกำหนดการคืนเงิน ผู้ถูกกล่าวหาก็มิได้ชดใช้เงินยืมตามระเบียบฯ
ต่อมาได้มีหนังสือทวงถามให้ผู้ถูกกล่าวหานำเงินคืนราชการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2554 และต่อมาในวันที่ 24 ธันวาคม 2544 สำนักการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 14 ได้ทำหนังสือแจ้งการตรวจสอบการเงินทั่วไปปีงบประมาณ 2553 ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ว่าให้ส่งใช้เงินยืมดังกล่าว
โดยนายประดิษฐ์ฯ ส่งใช้เงินยืม จำนวน 160,000 บาท ดังกล่าวในวันที่ 12 มิถุนายน 2555 ซึ่งล่วงเลยมาเป็นเวลากว่า 2 ปี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบดวยอำนาจหนาที่ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ปัจจุบันได้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 91 (1) (อยู่ในระหว่าง การพิจารณาของอัยการสูงสุด) และหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ตามมาตรา 98 วรรคสี่
เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้มีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งแล้ว
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด